Icon Location
ที่อยู่ : 14 ถ.พุธมณฑลสาย 2 ซอย 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
icon telephone icon facebook icon instagram icon line icon youtube
background article

ขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไร ❗❗ให้ปลอดภัย สบายใจเครื่องไม่ดับ????


เข้าหน้าฝนทีไร  พอมีฝนตกหนักทำให้น้ำระบายออกจากท้องถนนไม่ทัน  สิ่งที่ตามมาก็คือ  น้ำท่วม  ถ้าหากคุณจำเป็นต้องขับรถเพื่อลุยน้ำท่วมจริง  ๆ  ควรขับอย่างไรให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่จะเกิดเครื่องยนต์ดับระหว่างการเดินทางมีวิธีดี ๆ มาแนะนำกัน

สังเกตระดับความของน้ำ

  • ถ้าหากขับไปแล้วเจอฝนตกหนัก   ถนนหนทางเริ่มมีน้ำท่วมขัง  ก่อนจะขับรถลุยต่อไปควรประเมินความลึกของระดับน้ำที่ท่วมกันก่อน  ระดับที่ปลอดภัยคือ ไม่ควรท่วมเกิน  30  เซนติเมตร   โดยดูจากระดับความสูงของน้ำกับฟุตบาทข้างทาง    ฟุตบาทตามปกติจะมีความสูงอยู่ที่ 10 –  20  เซนติเมตร  ถ้าน้ำท่วมเลยระดับฟุตบาทแนะนำให้เลี่ยงเส้นทางนั้นจะปลอดภัยกว่า  หรือดูจากระดับน้ำท่วมที่ล้อรถ  ถ้าหากท่วมประมาณครึ่งล้อยังพอลุยต่อได้   แต่ถ้าท่วมถึงระดับขอบประตู  ไม่แนะนำให้ลุยเพราะน้ำอาจเข้าห้องโดยสารอาจทำให้ระบบไฟช็อตและเครื่องอาจดับได้  

เลือกเลนขับเวลาเจอน้ำท่วม

  • หลีกเลี่ยงเลนที่น้ำท่วมสูง   โดยเบี่ยงรถเข้าหาเลนที่มีน้ำระดับต่ำ จะช่วยลดความเสี่ยงน้ำเข้าเครื่องยนต์ได้มากกว่า

ชะลอความเร็วก่อนถึงจุดน้ำท่วม

  • หากจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ   ขอให้ชะลอความเร็ว  เพราะถ้าขับด้วยความเร็วสูง  รถอาจเสียการทรงตัวได้ เวลาขับควรใช้ความเร็วต่ำที่สุดและสม่ำเสมอ  เลี้ยงรอบให้นิ่งที่สุดประมาณ 1,500 – 2,000  รอบต่อนาที    เกียร์ธรรมดา ควรใช้ประมาณเกียร์ 2  ส่วนเกียร์ออโต้ควรใช้เกียร์ L 

ปิดแอร์รถยนต์ทันที  เมื่อเจอน้ำท่วม

  • ปิดแอร์รถจะช่วยลดระดับน้ำที่กระจายเข้าห้องเครื่องได้ถึงครึ่งเลยทีเดียว   เพราะพัดลมแอร์จะพัดน้ำเข้าไปในเครื่องทำให้มีโอกาสน็อกได้   และควรระวังขยะที่ลอยมากับน้ำจะเข้าไปติดมอเตอร์พัดลม  อาจทำให้ระบบระบายความร้อนในเครื่องยนต์พังได้เช่นกัน

ลดความเร็วลงอีก   เมื่อต้องขับรถสวนทางกัน

  • แรงปะทะจากรถที่สวนมาจะทำให้เกิดคลื่นชนกัน  น้ำจะสูงขึ้นกว่าเดิม  ทำให้น้ำอาจกระฉอกเข้ามาเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าเสียหายได้

รักษาระยะเบรกให้มากกว่าเดิม  2-3  เท่า

  • เมื่อขับรถลุยน้ำประสิทธิภาพของผ้าเบรกจะลดลง  ทำให้เบรกไม่ค่อยอยู่  เพื่อความปลอดภัยควรรักษาระยะห่างระหว่างรถให้มากกว่าเดิม  2-3  เท่า  จึงจะปลอดภัย

ไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที  เมื่อถึงจุดหมาย

  • ควรจอดรถทิ้งไว้สักครู่   เพื่อให้น้ำที่อาจตกค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสียระเหยออกมาให้หมด

ควรย้ำเบรก หรือ  คลัตช์  เพื่อไล่น้ำ 

  • รถเกียร์ออโต้  ควรย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก  ส่วนรถเกียร์ธรรมดา  ควรย้ำคลัตช์ เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น

ถ้าเกิดโชคร้ายเครื่องยนต์ดับ   อย่าสตาร์ทรถใหม่

หารถลาก  หรือ  พยายามเข็นรถให้พ้นจากระดับน้ำที่สูงไปก่อน  โดยระดับน้ำควรสูงไม่เกินครึ่งล้อรถยนต์จึงจะปลอดภัย  เพราะถ้าหากสตาร์ทรถใหม่ตรงบริเวณน้ำท่วมสูง   จะยิ่งทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้า  ทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น  


เพียงแต่นี้คุณก็สามารถขับรถลุยน้ำท่วมได้อย่างปลอดภัย   ไม่เสี่ยงเจอเครื่องดับกลางทาง   ที่สำคัญ  ถ้าหากยังพบอาการผิดปกติของระบบเครื่องยนต์  ระบบไฟฟ้า  หรือระบบเบรก  หลังจากลุยน้ำท่วม   ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการจะดีกว่าเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของตัวคุณเอง CPK จำหน่ายฟิล์มกรองแสงfixkool,pt Upgrade,cpและประดับยนต์ครบวงจร

https://www.facebook.com/2001CPK